สนใจผลิต น้ำมันบำรุงเส้นผม

ผลิตภัณฑ์น้ำมันบำรุงเส้นผม

เมื่อพูดถึงการบำรุงผมแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ออยล์บำรุงผม” ไม่ว่าจะเป็นการใช้ออยล์บำรุงผมโดยตรง หรือการเลือกใช้แฮร์แคร์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ เพราะปัญหาผมส่วนใหญ่ที่พบเจอคือผมร่วงและผมแห้งเสีย ดังนั้นเวลาบำรุงผมก็ควรทำตั้งแต่โคนจรดปลายเพื่อคงสภาพเส้นผมให้แข็งแรงตลอดเส้น

 

                                                             

 

 

7 น้ำมันจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง

ออยล์จากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย จึงช่วยเสริมความแข็งแรงของเส้นผมและปรับสมดุลให้หนังศีรษะแข็งแรง

1. Tea Tree Oil

 “น้ำมันทีทรี เป็นสารสกัดของเหลวที่ได้จากใบของต้นทีทรีที่เติบโตบนชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศออสเตรเลีย โดยปกติแล้วน้ำมันทีทรี ขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรียทั้งในส่วนของภายในและภายนอกร่างกาย เมื่อนำมาใช้บำรุงผมแล้วก็จะช่วยปรับสมดุลของหนังศีรษะให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม รังแคและผมร่วงจึงลดลงได้ พร้อมเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังรากผม คงความชุ่มชื้นของเส้นผม ทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้น

2. Jojoba Oil

โจโจ้บาร์ออยล์ เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่อุดมไปด้วยประโยชน์มากมายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ซึ่งคุณสมบัติหลักคือให้ความชุ่มชื้นและต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ด้วยส่วนประกอบของวิตามิน E และกรดไลโนเลอิก พร้อมลดปัญหาการอักเสบที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ เมื่อนำมาใช้บำรุงผมจะช่วยทำความสะอาดให้รูขุมขนสะอาด และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะได้ จึงทำให้เส้นผมเจริญเติบโตได้ดีขึ้น ลดปัญหาผมร่วงและผมขาดเปราะบาง

 

3.  Avocado Oil

 

น้ำมันจากผลอะโวคาโด อุดมไปด้วยวิตามินอี กรดไขมันไลโนเลอิกและโอเลอิก ซึ่งสามารถดูดซึมสู่ผิวหนังได้ดี มีสรรพคุณช่วยบำรุงรักษาเส้นผมให้แข็งแรง เพิ่มความชุ่มชื้นแก่หนังศีรษะที่แห้งและรูขุมขนเปราะบาง ช่วยปิดผนึกเซลล์หนังกำพร้าผม ลดอาการผมชี้ฟูให้หวีง่ายไม่พันกัน มีน้ำหนักจัดทรงง่าย พร้อมยังน้ำมันที่มีความอ่อนโยนต่อทุกสภาพเส้นผม ฉะนั้นคนที่มีเส้นผมบอบบางหรือหนังศีรษะแพ้ง่ายสามารถใช้บำรุงได้แบบไม่ต้องกลัวการระคายเคือง

 

4. Almond Oil

ภายในน้ำมันอัลมอนด์มีส่วนประกอบของกรดไขมันโอเมก้า 3, ฟอสโฟลิพิด, วิตามินอี และแมกนีเซียม จะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผมและหนังศีรษะได้ดี ฟื้นบำรุงผมเสียให้กลับมามีชีวิตชีวา มีน้ำหนักจัดทรงง่าย ลดปัญหาผมร่วงได้ดี สามารถใช้ได้หลายวิธีทั้งการนำน้ำมันมานวดบำรุงหนังศีรษะ หรือหมักผมสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือจะรับประทานเมล็ดอัลมอนด์เป็นมื้ออาหารหรือทานเล่นก็จะช่วยบำรุงได้จากภายในสู่ภายนอก

 

5. Olive Oil

เมื่อพูดถึงน้ำมันมะกอก นอกจากการนำมาประกอบอาหารแล้วยังมีประโยชน์มากมายในการบำรุงผิวพรรณและเส้นผม เพราะน้ำมันมะกอกจะช่วยต่อต้านสารต้านอนุมูลอิสระ โดยการรักษาคงสภาพของสุขภาพที่ดีของหนังศีรษะและเส้นผมและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ช่วยป้องกันปัญหาผมแห้งกร้าน และยังช่วยทำให้ผมจัดทรงง่ายขึ้นอีกด้วย และอีกหนึ่งคุณสมบัติหลักที่ไม่ควรพลาดคือช่วยลดปัญหาผมร่วง เพราะยับยั้งการสร้าง DHT เพราะฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้ต่อมรูขุมขนบนหนังศีรษะของอ่อนแอลงได้ และนำไปสู่อาการผมร่วงได้ในที่สุด

6. Argan Oil

“อาร์แกนออยล์” เป็นสกัดจากเมล็ดของผลอาร์แกน ซึ่งเป็นพืชที่เติบโตตามธรรมชาติเฉพาะบริเวณพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศโมรอคโค ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย โดยสามารถใช้กับผิวโดยตรงและใช้รับประทานก็ได้เช่นกัน เพราะอุดมไปด้วยประโยชน์มากกว่าที่คิด ทั้งซ่อมแซมสภาพเส้นผมที่แห้งเสียจากการใช้ความร้อนและสารเคมีต่างๆ ให้กลับมาดูนุ่มสลวย ดูมีน้ำหนัก เงางาม สามารถใช้เดี่ยวๆ ในการนวดบำรุงเส้นผม หรือจะนำมาผสมกับคอนดิชันเนอร์หรือ leave-in ที่ใช้เป็นประจำอยู่ก็ได้

 

7. Coconut Oil

จะไม่พูดถึงน้ำมันมะพร้าวก็ไม่ได้ เพราะส่วนผสมนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงเส้นผมเป็นอย่างยิ่ง หลายคนจึงนำน้ำมะพร้าวมาหมักผมอยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนผสมนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผมดูมีน้ำหนัก ลดอาการผมร่วง เพราะจะเข้าไปช่วยลดแบคทีเรียและเชื้อราที่เป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาผมร่วง พร้อมกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมให้แข็งแรงมากขึ้นตั้งแต่รากผมจรดปลายผม แนะนำให้เลือกใช้เป็นวิธีการหมักผมหรือเลือกไอเท็มมาส์กผมทั้งแบบล้างออกและไม่ล้างออก จะช่วยเสริมการบำรุงให้เส้นผมได้ดีกว่าเดิม

 

วิธีใช้ : บีบน้ำมันบำรุงเส้นผมลงบนฝ่ามือเล็กน้อย (ประมาณ 1-2 หยด ขึ้นอยู่กับความยาวผม) ชโลมบนเส้นผมที่เปียกหมาด หรือผมแห้ง แล้วไดร์ผมให้แห้ง

 

ขั้นต่ำและราคา/Kg : 
 

**ราคาเฉพาะค่าเนื้อยังไม่รวม บรรจุภัณฑ์ กล่องและฉลาก**

 
ปริมาณการผลิต 
 

30กก. / กก.ละ 900฿ 

60กก. / กก.ละ 730฿ 

80กก. / กก.ละ 640฿ 

100กก. / กก.ละ 600฿ 

200กก. / กก.ละ 550฿ 

500กก. / กก.ละ 460฿ 

1000กก. / กก.ละ 450฿ 

ขั้นต่ำในการสั่ง : 30กก.

อายุของสินค้า : ประมาณ2ปี หลังจากผลิต

 

 

Visitors: 100,129,717